นโยบายการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานของท่านได้ดียิ่งขึ้น ทางเราจะมีการเก็บข้อมูลการใช้งานบนเว็บไซต์ โดยการเข้าชมเว็บไซต์นี้ ถือว่าท่านตกลงยอมรับในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ อ่านรายละเอียด

Nissan อาจอยู่รอดต่อไปได้เพียง 12 – 14 เดือน หากไม่มีนักลงทุนรายใหม่

Nissan เคยประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ชนิดจวนเจียนล้มละลายมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 1999 ก่อนที่จะผ่านพ้นวิกฤตมาได้ แต่ฝันร้ายดังกล่าวดูเหมือนจะกลับมาหลอกหลอน Nissan อีกครั้ง หลังทางการประกาศผลประกอบการครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2024 ไปซึ่งมีตัวเลขติดลบทั้งยอดขายและผลกำไรทั่วโลก ในระดับที่ CEO ระบุว่าเป็น ‘สถานการณ์ฉุกเฉิน’ นำไปสู่การออกมาตรการรัดเข็มขัดหลายขนาน รวมทั้งปลดคน, ลดกำลังการผลิต และลดรายได้ผู้บริหาร

 

ล่าสุด มีรายงานเชิงลบเกี่ยวกับสถานการณ์ของ Nissan มาอีกครั้งจาก Financial Times ที่อ้างอิงถึงแหล่งข่าวผู้บริหารอาวุโสนิรนามสองรายซึ่งให้ข้อมูลตรงกันว่า Nissan อยู่ระหว่างการค้นหานักลงทุนรายใหม่ที่มีความมั่นคง มาช่วยประคองบริษัทในระยะยาว โดยอาจะเป็นกลุ่มธนาคารหรือประกันภัย ทั้งยังมีการระบุสถานการณ์ของบริษัทด้วยว่า Nissan อาจอยู่รอดต่อไปได้เพียง 12 – 14 เดือนจากนี้เท่านั้น (หากไร้ซึ่งนักลงทุนรายใหม่)

อีกหนึ่งปัจจัยลบที่มีผลต่อ Nissan คือ Renault ได้ลดจำนวนหุ้นที่มีใน Nissan ลงจากเดิมที่มีอยู่ 46% แต่ในตอนนี้ได้ขายออกไปจนเหลือไม่ถึง 40% ทั้งยังมีท่าทีที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การวิเคราะห์ที่ว่า Renault อาจขายหุ้นที่มีอยู่ใน Nissan ตรงให้กับคู่แข่งเลย หรือ Honda อาจก้าวเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของ Renault หลังจากที่ Honda ได้จับมือกับ Nissan เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลตอนนั้นว่าเพื่อพัฒนาชิ้นส่วนร่วมกัน

 

การวิเคราะห์เช่นนี้ทำให้มีการนึกถึงคำพูดของ Carlos Ghosn อดีตผู้บริหาร Nissan ที่เคยวิเคราะห์ไว้ว่า การจับมือระหว่าง Honda และ Nissan เป็นเพียงการเข้าครองธุรกิจอย่างมีนัยแอบแฝง แม้จะมีรายงานจากหลายสื่อว่า ‘การที่ Honda เข้าซื้อหุ้น Nissan คือสิ่งสุดท้ายที่ Honda จะทำ’ ซึ่งนั่นถือว่าไม่ใช่การปิดประตู แถมยังมีรายงานอ้างถึงผู้บริหาร Nissan รายเดิมผู้เปิดประเด็นเรื่องบริษัทกำลังหานักลงทุนรายใหม่อยู่ว่า การจับมือระหว่าง Honda และ Nissan คือโครงการทดลองรูปแบบหนึ่ง

แนวคิดที่ว่าคือการที่บริษัทเล็กมาจับมือกัน จะช่วยให้อยู่รอดในอุตสาหกรรมต่อได้หรือไม่ จริงอยู่ว่าทั้ง Honda และ Nissan ต่างไม่ใช่แบรนด์เล็ก แต่ทั้งสองมุ่งเน้นไปที่ตลาดหลักอย่างสหรัฐ, จีน และญี่ปุ่นเท่านั้น ต่างจาก Stellantis ที่เกิดจากการรวมแบรนด์ที่ใหญ่กว่าเข้าด้วยกัน แถมยังมีขนาดตลาดที่ใหญ่กว่า เพราะมุ่งเจาะตลาดยุโรปด้วยไม่ได้มีแค่สามประเทศข้างต้น แต่สุดท้ายแล้ว Nissan จะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันจากทางการทั้งจากทาง Honda และ Nissan ในตอนนี้

 

ที่มา: carscoops, paultan

Credit: www.HeadLightMag.com