นโยบายการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานของท่านได้ดียิ่งขึ้น ทางเราจะมีการเก็บข้อมูลการใช้งานบนเว็บไซต์ โดยการเข้าชมเว็บไซต์นี้ ถือว่าท่านตกลงยอมรับในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ อ่านรายละเอียด

หลุดภาพ Haval Raptor Hi4 รถ crossover รุ่นปรับโฉม ขุมพลัง Plug-in hybrid เบนซิน 1.5 ลิตร

Haval เตรียมเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของรถ SUV รุ่น Raptor Hi4 ที่มาพร้อมงานออกแบบใหม่ในบางจุดและขุมพลังที่มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้น โดยหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นตลาดระลอกใหม่ หลังจากยอดขายของรุ่นนี้ไม่ได้เติบโตเท่าที่ควรนับตั้งแต่วันที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2023 ที่ผ่านมา โดยยอดขายตลอด 7 เดือนแรกของปี 2024 ของ Raptor Hi4 สามารถทำไปได้เพียงแค่ 24,000 คัน เท่านั้น

 

 

Haval Raptor Hi4 ได้ปรับใช้งานออกแบบใหม่ที่เปลี่ยนมาใช้ไฟหน้าแบบสี่เหลี่ยมแทนที่ไฟหน้าทรงกลม และยังเปลี่ยนไปใช้กระจังหน้าแบบสีดำ ที่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม เพื่อเพิ่มความแตกต่างจากรุ่นปัจจุบัน ซึ่งทาง GWM ได้เปิดตัวงานออกแบบเดียวกันนี้ในเวอร์ชั่นขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปล้วนไปก่อนหน้านี้ โดยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18-19 นิ้ว ตามแต่ละรุ่นย่อย

มิติตัวถังรถ

  • ความยาว 4,680 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้นเป็น 4,800 มิลลิเมตร เมื่อรวมยางอะไหล่ด้านท้าย)
  • ความกว้าง 1,950 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,822 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวถัง 2,055 – 2,135 กิโลกรัม

 

ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตรรหัส GW5B15M พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 154 แรงม้า ทำหน้าที่ร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าในลักษณะ Plug-in hybrid ที่ใช้อยู่ในรถรุ่น H6 และ H3 มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยมีพละกำลังน้อยลงกว่ารุ่นปัจจุบันอยู่ 13 แรงม้า โดยเลือกใช้แบตเตอรี่จากบริษัท SVOLT เช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน มีความจุให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ 18.74 kWh ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 81 กิโลเมตร 19.09 kWh ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 81 กิโลเมตร และ 27.54 kWh ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 115 กิโลเมตร

การปรับใหม่ครั้งนี้ เพื่อให้เป็นการต่อกรกับคู่แข่งจากแบรนด์ BYD ที่เพิ่งจะดันขุมพลัง Plug-in hybrid แบบ DM-I ไปก่อนหน้านี้ โดยจะต้องใช้การบริหารต้นทุนและประสิทธิภาพของขุมพลังเป็นจุดเด่นเหนือคู่แข่ง โดยจะพร้อมส่งมอบได้ภายหลังจากงานมหกรรมยานยนต์ Chengdu Motor Show 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2024 นี้

ที่มา: Carnewschina

Credit: www.HeadLightMag.com