นโยบายการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานของท่านได้ดียิ่งขึ้น ทางเราจะมีการเก็บข้อมูลการใช้งานบนเว็บไซต์ โดยการเข้าชมเว็บไซต์นี้ ถือว่าท่านตกลงยอมรับในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ อ่านรายละเอียด

CEO ของ Stellantis เผยพร้อมปิดแบรนด์รถยนต์ ที่ไม่สร้างผลกำไรให้กับเครือ

เครือ Stellantis ถือกำเนิดขึ้นในปี 2021 จากการควบรวม Fiat Chrysler และ PSA เข้าด้วยกัน โดยมีแบรนด์รถยนต์ในมือมากถึง 14 แบรนด์ ประกอบด้วย Citroen, Fiat, Opel, Vauxhall, Peugeot, Abarth, Ram, Dodge, Chrysler, Jeep, Lancia, DS Automobiles, Alfa Romeo และ Maserati ทำให้เครือดังกล่าวมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของวงการอุตสาหกรรม และในตอนนั้นเคยมีการประกาศด้วยว่า จะมีการลงทุนในทุกแบรนด์ต่อไปอีก 10 ปี

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านโยบายจะเปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจาก Carlos Tavares ตำแหน่ง CEO ของ Stellantis ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า หากมีแบรนด์ใดที่ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ เราจะปิดแบรนด์นั้นทิ้ง เนื่องจากบริษัทไม่มีกำลังมากพอ ที่จะรักษาแบรนด์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อไป ทั้งนี้ CEO ยังไม่ได้ระบุว่ามีแบรนด์ใดบ้างที่อาจมาถึงจุดจบ แต่มีการวิเคราะห์จากภายนอกว่าอาจเป็น Lancia และ DS โดยดูจากสัดส่วนยอดขายในเครือ

 

ส่วน Maserati นั้นมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน โดยครึ่งแรกของปี 2024 บริษัทรายงานว่าประสบปัญหาขาดทุนจากการปฏิบัติการมูลค่า 82 ล้านยูโร (ราว 3,200 ล้านบาท) ทำให้ค่ายตรีศูลอาจถูกจับตามองเช่นกัน แต่ด้วยความที่ว่าแบรนด์ยังมีมูลค่าอยู่ จึงมึความเป็นไปได้ที่ Stellantis อาจเลือกจะขายแบรนด์นี้ออกไป ส่วนแบรนด์ที่น่าจะอยู่รอดปลอดภัย คาดว่ามี Fiat, Opel/Vauxhall, Peugeot, Citroen, Jeep และ Ram

หลังจากที่ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป มูลค่าหุ้นของ Stellantis ลดลง 12.5% จนถึงจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 และคิดเป็นมูลค่าลดลง 22% เมื่อนับจากต้นปีที่ผ่านมา หรือย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปค่ายอื่น นับเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์การเงินติดลบ หลังบริษัทเปิดเผยก่อนหน้าว่า Stellantis มีรายได้จากการปฏิบัติการในครึ่งแรกปี 2024 ลดลง 40% และมีผลกำไรสุทธิลดลง 48%

 

ที่มา: motor1autoblog

Credit: www.HeadLightMag.com