เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2024 Honda Motor Co., Ltd. (Honda) และ Mitsubishi Corporation (MC) ได้ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่มีอัตราส่วนในการลงทุน 50:50 และใช้ชื่อว่า ALTNA Co., Ltd. (ALTNA) ที่มีกำหนดการดำเนินงานในเดือนกรกฎาคม 2024 นี้ หลังจากทั้ง 2 บริษัทได้ลงนามข้อตกลงหรือ MoU ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2023 เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการจัดการแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยมีเป้าหมายดังนี้
บริษัทน้องใหม่อย่าง ALTNA จะทำหน้าที่ในการจัดการแบตเตอรี่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ หรือตั้งแต่เริ่มนำไปใช้ในรถ EV ใหม่ ที่ยังมีประสิทธิภาพ 100% ไปจนถึงการย้ายการใช้งานจากรถ EV ไปยังสถานีพลังงานสะอาดที่กระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น เพื่อลดต้นทุนรวมในการใช้งานรถ EV ต่อ 1 หน่วย และเพิ่มศักยภาพในการนำแบตเตอรี่ที่ผ่านการใช้งานแล้ว ให้มีบทบาทอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งหมดนี้จะสะท้อนผ่านธุรกิจย่อยดังนี้
ในที่นี้จะจับมือกับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้การใช้งานแบตเตอรี่มีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม โดยจะเป็นการแยกการเช่าซื้อเพื่อใช้งานแบตเตอรี่ออกจากตัวรถ ผ่านแผนการเช่าซื้อหลากหลายรูปแบบ โดยจะเริ่มนำมาใช้กับรถรุ่น N-VAN e: ของ Honda สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้แก่ ทางบริษัท ALTNA จะถือกรรมสิทธิ์ของแบตเตอรี่ลูกนั้นๆ และจะมีขั้นตอนการตรวจสอบสถานะการใช้งานเป็นระยะ รวมไปถึงการทำนายอัตราการเสื่อมของแบตเตอรี่ลูกดังกล่าว และจะทำหน้าที่จัดการแบตเตอรี่ของรถคันนั้นๆ ตลอดอายุการใช้งานถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนมือเจ้าของไปเป็นมือที่ 2 หรือ 3 แล้วก็ตาม
เมื่อรถคันดังกล่าวหมดอายุการใช้งาน ALTNA จะทำการถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรถ และนำไปตรวจสอบพร้อมกับการฟื้นฟูสภาพตามสมควร เพื่อนำไปใช้กับแหล่งพลังงานสะอาดรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะโครงข่ายไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ที่เป็นการควบรวมแหล่งพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้การใช้งานของแบตเตอรี่มีช่วงระยะเวลายาวนานที่สุด ก่อนที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลในท้ายที่สุด
ทาง ALTNA จะออกแพ็คเกจการชาร์จเพื่อคุมราคาให้ผู้ใช้ยิ้มได้ยามต้องชาร์จไฟนอกสถานที่ โดยใช้การจัดการการชาร์จนอกช่วง On-peak ของโครงข่ายไฟฟ้า ผ่านการควบคุมการใช้พลังงานระดับสูง และการคำนวณชั่วโมงการใช้งานของรถ EV แต่ละคัน เพื่อทำให้ระยะเวลาของการชาร์จมีความสะดวกสบายสูงสุด และยังเป็นการนำแหล่งพลังงานสะอาดมาใช้เป็นต้นกำเนิดพลังงานไฟฟ้าให้กับระบบชาร์จอีกด้วย
ทั้งหมดนี้จะทำให้ราคาของการเป็นเจ้าของรถ EV หรือ Cost of ownership ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และจะเปิดตัวบริการต่างๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 เป็นต้นไป
ที่มา: Honda
Credit: www.HeadLightMag.com