หลังจากที่ค่ายกระทิงดุออกมาประกาศถึงการยุติการวางจำหน่าย Huracán พร้อมกับการจากลาของเครื่องยนต์ V10 ไร้ระบบอัดอากาศที่จำเป็นต้องหายไปพร้อมกัน จนกระทั่งมีข่าวหลุดออกมาก่อนหน้านี้ถึงการมาถึงของขุมพลังพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบเบนซิน V8 ทวินเทอร์โบ พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ทางค่ายได้ให้สัญญาว่าจะยังสามารถเร่งรอบได้สูง เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศและมอเตอร์ไฟฟ้า
ดังนั้นเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่งและวัฒนาการสมัยใหม่ จึงสามารถเร่งรอบได้สูงถึง 10,000 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์พ่วงระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์รุ่นอื่นๆ ในฐานะรถยนต์เวอร์ชั่นถนน ไม่นับรวมเครื่องยนต์สำหรับการแข่งขัน
พละกำลังสูงสุดที่สามารถปั่นแรงม้าได้จำนวน 789 แรงม้า ที่ 9,000 – 9,750 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 732 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 – 7,000 รอบ/นาที โดยจะติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์จำนวน 2 ตัวไว้ที่ตำแหน่งระหว่างแถวลูกสูบ มาพร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ พร้อมด้วยอ่างน้ำมันเครื่องแบบ dry-sump เพื่อยืนยันว่าระบบหล่อลื่นจะสามารถทำงานได้ครบทุกรูปแบบการทำงาน
เทคโนโลยีอื่นๆที่ช่วยให้เครื่องยนต์บล๊อคนี้สามารถทำงานได้ที่รอบสูง ได้แก่ วัสดุไทเทเนี่ยมที่ใช้ในการผลิตเพลาข้อเหวี่ยง พร้อมด้วยการเปลี่ยนมาใช้ระบบเปิดปิดวาล์วแบบ finger follower แทน bucket-and-shim ซึ่งจะเป็นการลดน้ำหนักของชิ้นส่วนและภาระของเพลาลูกเบี้ยวระหว่างการหมุน ส่งผลให้การทำงานที่รอบสูงเป็นไปได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ของ Ferrari Porsche และ Ford Mustang V8
อีกหนึ่งไฮไลท์ได้แก่การต่อพ่วงกับระบบขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้า ในลักษณะเช่นเดียวกับรถ SUV รุ่น Revuelto โดยเลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร ติดตั้งระหว่างเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบ dual-clutch 8 จังหวะ โดยเลือกใช้มอเตอร์แบบ axial-flux เพื่อช่วยลดพื้นที่ในห้องเครื่องเช่นเดียวกันกับ McLaren และ Ferrari นอกจากนี้ Lamborghini ยังติดตั้งมอเตอร์เพิ่มเติมอีก 2 ตำแหน่ง ที่ล้อหน้าแต่ละข้าง เพื่อให้ทำเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
นับว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเครื่องยนต์ V8 ที่วางอยู่ในรถแข่งรุ่น SC63 LMDh prototype ก่อนที่จะเปิดตัวเครื่องยนต์บล๊อคนี้อย่างเป็นทางการพร้อมกับตัวตายตัวแทนของ Huracán ในเดือนสิงหาคม 2024 นี้
ที่มา: Motor1
Credit: www.HeadLightMag.com