Chrysler Halcyon Concept ต้นแบบ EV สี่ประตู ทรงสปอร์ต พร้อมประตูตู้กับข้าวและหลังคา T-Bar

Chrysler ประกาศไว้ว่าจะก้าวสู่การเป็นแบรนด์ ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวภายในปี 2028 โดยจะเปิดตัว EV รุ่นแรกในปี 2025 ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2024 บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบในชื่อ Chrysler Halcyon Concept แต่ด้วยความที่ดูล้ำอนาคตเกินปัจจุบันไปหลายขุม ทำให้คาดเดาได้ว่าอีกหลายปีถึงจะได้เจอคันจริง หรืออาจจะเป็นเพียงการนำดีไซน์รวมถึงเทคโนโลยีบางส่วน ไปปรับใช้กับรุ่นอื่นต่อไปในอนาคต

แม้กระแส SUV ยังคงมาแรงแต่ Chrysler Halcyon Concept เลือกที่จะมาในตัวถัง 4 ประตูทรงสปอร์ตเพรียวลม พร้อมเส้นสายตัวถังเป็นเหลี่ยมสัน เสริมองค์ประกอบตัวแรงทั้งเตี้ยติดพื้น, ล้อเต็มซุ้มลาย 5 ก้านด้านในดำหน้าตัดขอบเงา พร้อมช่วงล่างโหลดเตี้ยติดพื้น แถมยังมีส่วนหัวรถที่สูงจากพื้นเพียง 4 นิ้วเท่านั้น จนดูลู่ลมและเตี้ยเหมือนรถสปอร์ต เสริมด้วยประตูเปิดออกแบบตู้กับข้าว ไร้เสากลาง B-Pillar ส่วนหลังคาเปิดกระจกด้านข้างออกได้ อารมณ์เดียวกับหลังคา T-Bar จากรถสปอร์ตสมัยก่อน

Chrysler Halcyon Concept มาพร้อมกับห้องโดยสารล้ำยุค มีเบาะแยกสำหรับผู้โดยสารแต่ละที่นั่ง พร้อมปรับเอนนอนเพื่อความผ่อนคลายสูงสุด พร้อมหน้าจอแสดงผลแนวตั้งพาดยาว จากกึ่งกลางแดชบอร์ดลงมาจนถึงคอลโซลกลาง ในส่วนของผู้ขับขี่ยังคงมีพวงมาลัยและแป้นเหยียบให้อยู่ แต่เนื่องจากรถยนต์ต้นแบบคันนี้จะมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ระดับที่ 4 มาให้ ทำให้สามารถพับเก็บทั้งพวงมาลัยและแป้นเหยียบได้ด้วย ส่วนวัสดุที่ใช้ตกแต่งมากกว่า 95% มาจากสิ่งของรีไซเคิล

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ Chrysler Halcyon Concept มีคือปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วยเหลืออัจฉริยะ ซึ่งจะมาจัดการชีวิตให้กับผู้ใช้งานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปรับตั้งอุณหภูมิภายในห้องโดยสารล่วงหน้า, วางแผนการเดินทางให้ล่วงหน้า โดยคำนวณจากข้อมูลปฏิทินของผู้ใช้งาน และสภาพการจราจรในแต่ละพื้นที่ – เวลา รวมถึงวิเคราะห์ปัญหาของรถยนต์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับรายงานไปยังศูนย์บริการ โดยที่ไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์

ขุมพลังของ Chrysler Halcyon Concept ระบุแค่ว่าเป็นระบบไฟฟ้า EV แบบ Lyten 800V ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบ lithium-sulfur ซึ่งปราศจาก nickel, cobalt หรือ manganese ช่วยลดคาร์บอนลงได้มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ในปัจจุบัน พร้อมปูทางสู่การเป็นแบตเตอรี่ EV ที่มีมลพิษต่ำสุดของโลก ส่วน platform เป็นแบบ STLA Large ซึ่งทางการเคยระบุไว้ก่อนหน้าว่า สามารถนำไปต่อยอดเป็น EV หลากหลายรูปแบบตัวถังและมีพิสัยการขับขี่สูงสุด 800 กิโลเมตร

ที่มา: Chrysler

Credit: www.HeadLightMag.com