Ford ตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงให้ได้ 2,000 ล้าน USD (ราว 71,000 ล้านบาท) โดยกระบวนการนั้นครอบคลุมหลายอย่างด้วยกันอย่าง ค่าใช้จ่ายในกระบวนการขนส่ง, ขั้นตอนการผลิต และวัสดุ แต่ที่เหนือกว่านั้นคือการตัดระบบที่ผู้บริโภคไม่นิยมใช้ทิ้ง โดยระบบแรกที่อาจไม่ได้ติดตั้งมาให้ในรถยนต์ Ford อีกต่อไปในอนาคตคือ Active Park Assist ระบบจอดขนานโดยอัตโนมัติ ซึ่งอยู่เคียงคู่ Ford มานานกว่าสิบปี
Kumar Galhotra ตำแหน่ง COO ของ Ford ให้สัมภาษณ์ว่าจากข้อมูลของรถยนต์ ที่มีระบบเชื่อมต่อของบริษัท (Connected Data) ได้แสดงสถิติให้เห็นว่ามีผู้บริโภคจำนวนน้อยมากที่ใช้งานคำสั่งนี้ Ford จึงตัดสินใจยุติการติดตั้งระบบดังกล่าวในอนาคต เพื่อเป็นการลดต้นทุน โดยจะลดลงคันละ 60 USD (ราว 2,000 บาท) หรือ คิดเป็นปีละ 10 ล้าน USD (ราว 300 ล้านบาท) ทั้งนี้ ยังไม่มีการระบุว่า จะมีการตัดระบบอื่นใดเพิ่มอีกหรือไม่
สำหรับมาตรการลดเข็มขัดอื่น Galhotra ได้ยกตัวอย่างเป็นแผ่นรีดอากาศใต้ท้องรถ ซึ่งทีมงานได้เปลี่ยนวัสดุใหม่ โดยที่ยังคงประสิทธิภาพเดิมไว้ แต่ช่วยลดต้นทุนต่อคันได้คันละ 40 USD (ราว 1,400 บาท) หรือ คิดเป็นปีละ 10 ล้าน USD (ราว 300 ล้านบาท) เช่นกัน นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงขั้นตอนการผลิต ซึ่งเป็นการนำแนวคิดของวิศวกรภายในมาพัฒนาใหม่ จนช่วยลดรายจ่ายได้อีก 8 ล้าน USD (ราว 280 ล้านบาท)
ที่มา: caranddriver, carscoops
Credit: www.HeadLightMag.com