KIA EV9 รถยนต์ไฟฟ้า 100% แบต 99.8 kWh วิ่งไกล 541 km. (WLTP) เตรียมเปิดตัวในไทย 1 มีนาคม นี้ !

วันที่ 31 มกราคม 2024 KIA Corporation ประกาศตั้งบริษัท KIA Sales (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจของ KIA Sales (ประเทศไทย) ในปี 2024 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะพลิกโฉมแบรนด์และสร้างการเติบโตทางธุรกิจของ KIA ในประเทศไทยในระยะยาว นำโดย นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นายจุน โอ อี ประธาน บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นายณัฏฐ์ชัย สุรวรรธนกุล รองประธานฝ่ายขาย เครือข่ายผู้จัดจำหน่าย และบริการหลังการขาย บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ด้านกลยุทธ์ระดับองค์กรของ KIA Sales (ประเทศไทย) นั้น มีชื่อว่า “Plan S-5” ซึ่งประกอบด้วยเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่

ครองส่วนแบ่ง 5% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
เพิ่มการทำตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวให้มีสัดส่วนคิดเป็น 50% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด
ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบแบรนด์ที่มีการรับรู้สูงที่สุด 5 อันดับแรก
ขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศให้เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว

นอกจากนี้ KIA Sales (Thailand) ยังจะมีแผนเพิ่มผู้จำหน่ายใหม่ 10 ราย ในปี 2024 พร้อมยกระดับกลยุทธ์ด้านบริการของเราอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้บริโภคชาวไทย โดยนโยบายใหม่ของเราจะมอบการรับประกันคุณภาพรถเป็นระยะเวลา 7 ปี ให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่เดือน มีนาคม 2024 เป็นต้นไป โดยการรับประกันตามมาตรฐานใหม่ จะมาควบคู่กับการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 7 ปี

สำหรับรถยนต์รุ่นแรกที่จะถูกเปิดตัวพร้อมออกจำหน่ายในประเทศไทย ภายหลังจากที่มีการตั้ง KIA Sales (ประเทศไทย) ได้แก่ KIA EV9 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตัวถัง Mid-size SUV สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Electric Global Modular Platform (E-GMP) ขนาดตัวถังภายนอกใกล้เคียงกันกับ KIA Telluride และ Hyundai Palisade โดยกำหนดการเปิดผ้าคลุมในเมืองไทยนั้น จะมีขึ้นในวันที่ 1 – 2 มีนาคม 2024 นี้

ข้อมูลเบื้องต้นของ KIA EV9 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ มีดังต่อไปนี้

ขนาดและมิติตัวถัง

ความยาว 5,010 – 5,015 มิลลิเมตร
ความกว้าง 1,980 มิลลิเมตร
ความสูง 1,755 – 1,780 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ 3,100 มิลลิเมตร

ขุมพลังขับเคลื่อนของ KIA EV9 มีให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้

Standard Range RWD (76.1 kW)

ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) กำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 215 แรงม้า (HP) ที่ 4,400 – 9,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion แรงดันสูงสุด 800V ความจุ 76.1 kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10.9 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 350 kW (Fast Charging) มีระบบจ่ายกระแสไฟสู่ภายนอก (V2L) สูงสุด 3.58 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.7 วินาที
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม ทำได้ 370 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA)
ระยะเวลาชาร์จด้วย DC Fast Charge จาก 10 – 80% ทำได้ภายใน 20 นาที โดยประมาณ

Long Range RWD (99.8 kW)

ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 204 แรงม้า (PS) ที่ 4,400 – 9,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion แรงดันสูงสุด 800V ความจุ 99.8 kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10.9 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 350 kW (Fast Charging) มีระบบจ่ายกระแสไฟสู่ภายนอก (V2L) สูงสุด 3.58 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.8 วินาที
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม ทำได้ 489 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA)
ระยะเวลาชาร์จด้วย DC Fast Charge จาก 10 – 80% ทำได้ภายใน 24 นาที โดยประมาณ

Long Range AWD (99.8 kW)

ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) 2 ตัว กำลังสูงสุด 283 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 305 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 – 7,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion แรงดันสูงสุด 800V ความจุ 99.8 kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10.9 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 350 kW (Fast Charging) มีระบบจ่ายกระแสไฟสู่ภายนอก (V2L) สูงสุด 3.58 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน